การระบาดของโรคระลอกใหญ่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก ทั้งผู้อยู่อาศัยและช่างไฟฟ้าทั้งหลายต้องปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ใหม่ที่ไม่คาดคิดมาก่อน การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลกและเสนอความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับธุรกิจหลายๆ อย่าง
อย่างไรก็ตาม มันยังเปิดโอกาสให้เกิดแนวคิดธุรกิจใหม่ๆ ที่นำมาซึ่งโอกาสใหม่ในการจ้างงานในภาคส่วนต่างๆ ในขณะที่ทุกคนต้องอยู่ในบ้าน การพึ่งพาบริการที่จัดส่งสิ่งของจำเป็น เช่น อาหารและยา ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
การระบาดของโรคระลอกใหญ่ได้ส่งผลให้แนวโน้มการทำงานจากที่บ้านมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด บริษัทต่างๆ เช่น Uber และ DoorDash ได้รับประโยชน์จากการทำงานระยะไกลและการส่งอาหารที่เพิ่มขึ้น และแม้แต่หลังจากสถานการณ์ดังกล่าวดับเล็กน้อย แนวโน้มการทำงานจากที่บ้านไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงเลย
หากเจ้าของบ้านต้องการที่จะปรับปรุงบ้านให้เป็นสมาร์ทโฮมแต่ไม่มีความรู้เรื่องระบบสมาร์ทโฮมหรืออุปกรณ์ IoT (Internet of Things) อย่างเป็นทางการ ก็จะต้องพิจารณาจ้างช่างไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญในด้านนี้เป็นคนช่วย ซึ่งในไทยอาจยังไม่มีช่างไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญในระบบสมาร์ทโฮมหรือ IoT มากมาย ดังนั้นคุณควรมองหาช่างไฟฟ้าที่มีความรู้และประสบการณ์ในการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบสมาร์ทโฮม หรือสามารถรับผิดชอบในการปรับปรุงบ้านให้เป็นสมาร์ทโฮมได้อย่างเหมาะสม
ภาพรวมของระบบสมาร์ทโฮมในปัจจุบัน
ระบบสมาร์ทโฮมได้รับความนิยมและเติบโตขึ้นอย่างมากในอุตสาหกรรมโลกในปัจจุบัน มีหลายปัจจัยที่มีส่วนในการส่งเสริมเทรนด์นี้ หนึ่งในนั้นคือการระบาดของโรคระลอกใหญ่ที่ส่งผลให้โลกต้องปรับตัวและเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและการเรียนรู้อย่างสิ้นเชิง
การเติบโตของระบบสมาร์ทโฮมในปี 2023
ทั่วโลกในปัจจุบันมีบ้านอัจฉริยะมากกว่า 175 ล้านหลังที่นับไม่ถ้วน บ้านเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้พวกเขาโดดเด่น คือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ที่สามารถควบคุมจากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ตหรือแอปพลิเคชันที่ใช้ง่าย ซึ่งนำมาซึ่งความสะดวกสบายและความสามารถในการควบคุมทุกอย่างในบ้านด้วยมือของคุณ
การระบาดของโรคระลอกใหญ่ส่งผลให้ยุคการทำงานและการเรียนรู้จากที่บ้านกลายเป็นสิ่งที่นิยมมากขึ้น บ้านอัจฉริยะกลายเป็นสถานที่ที่คนสามารถทำงานและเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในบทบาทของบุคคลธรรมดาและระดับองค์กร
อีกที่นึงที่น่าสนใจคือระบบรักษาความปลอดภัยที่ควบคุมด้วยมือถือ นับเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดการณ์ว่าระบบรักษาความปลอดภัยที่ควบคุมด้วยมือถือจะครองตลาดสมาร์ทโฮมได้เกือบ 25% ในปี 2024 ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าความปลอดภัยและความสง่างามของบ้านอัจฉริยะกำลังเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจอย่างมาก
โครงสร้างพื้นฐานบ้านที่ได้รับการปรับปรุงใหม่
การทำสมาร์ทโฮมหรือการนำเทคโนโลยี IoT มาใช้ในบ้านนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและสามารถปรับใช้ได้ในหลายด้านของชีวิตประจำวัน เพื่อให้บ้านของคุณเป็นสมาร์ทโฮมที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้ดี คุณจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมและเตรียมความพร้อมให้พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่สำคัญต่อไปนี้
เครือข่าย Wi-Fi ที่เร็วและมีความเสถียร : เครือข่าย Wi-Fi ที่มีความเร็วและเสถียรสำคัญสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ในบ้านของคุณ ควรเลือกเราเตอร์ที่สามารถรองรับจำนวนอุปกรณ์มากพอเพียงและมีความเร็วที่เพียงพอสำหรับการสตรีมวิดีโอและการทำงานออนไลน์อื่นๆ
สมาร์ทโฮมฮับ : สมาร์ทโฮมฮับหรือคอมมูนิเคชันเป็นหน่วยควบคุมสำคัญสำหรับการควบคุมอุปกรณ์ IoT ในบ้าน คุณสามารถเลือกจากตัวเลือกต่างๆ เช่น Amazon Echo Google Home หรือ Apple HomePod ขึ้นอยู่กับระบบที่คุณต้องการใช้งาน
อุปกรณ์ IoT : เลือกอุปกรณ์ IoT ที่ตรงตามความต้องการของคุณ เช่น หลอดไฟ LED สมาร์ท กล้องวงจรปิดสมาร์ท เซ็นเซอร์สมาร์ท ระบบปรับอากาศสมาร์ท และอุปกรณ์ควบคุมโซลาร์พาวเวอร์
แอปพลิเคชันควบคุม : ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมสมาร์ทโฮมที่ใช้งานง่ายและรองรับอุปกรณ์ที่คุณมีในบ้าน
ความปลอดภัย : ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของระบบ IoT ในบ้านของคุณ ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและอัปเดตอยู่เสมอ เพิ่มชั้นความปลอดภัยโดยใช้ระบบการรับรองความปลอดภัยเพิ่มเติมเมื่อจำเป็น
การบริหารจัดการ : ใช้ระบบการบริหารจัดการสมาร์ทโฮมเพื่อตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์ IoT ในบ้าน รวมถึงตั้งเวลาและกำหนดเงื่อนไขการทำงานให้กับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน