ประโยชน์ของน้ำมันไฮดรอลิคคืออะไร และน้ำมันไฮดรอลิคมีกี่ประเภท
น้ำมันไฮดรอลิค Hydraulic Oil คือ สารหล่อลื่นหรือของเหลวที่ใช้ในการหล่อลื่นในระบบห้องเครื่องให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งมีมากมายหลากหลายชนิด ปัจจุบันระบบห้องเครื่องต่างๆ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำมันไฮดรอลิคเข้ามาช่วยในการบำรุงรักษาให้เกิดการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ น้ำมันไฮดรอลิค คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ระบบไฮดรอลิค คือ การใช้ของเหลวภายใต้แรงดันสูงๆ เพื่อส่งถ่ายกำลังจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งและในเวลาเดียวกันก็จะให้แรงเป็นเท่าทวีคูณด้วย ใช้กันแพร่หลายทั้งในอุตสาหกรรมและยานยนต์
ของเหลวไฮดรอลิค
- น้ำ
- น้ำมันปิโตรเลียม
- ของเหลวอื่นๆ (สังเคราะห์)
คุณสมบัติของน้ำมันไฮดรอลิค
- ความหนืดพอเหมาะ และดัชนีความหนืดสูง
- มีจุดข้นแข็งต่ำ (Pour Point)
- คุณภาพของน้ำมันจะต้องไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงถึงแม้อุณหภูมิในการทำงานจะสูง
- มีคุณภาพการหล่อลื่นที่ดี และไม่ทำปฏิกิริยากับยาง ซีล ปะเก็น และสี
- ต้านทานการเกิดออกซิเดชั่นได้ดีเยี่ยม
- ต้านทานการเกิดสนิม
- ต้านทานการเกิดฟอง
- มีความสามารถในการแยกตัวจากน้ำได้ดี
- มีความสามารถในการอัดตัวต่ำ
- ไม่จับตัวเป็นก้อนหรือยางเหนียว
ชนิดของน้ำมันไฮดรอลิค
1. น้ำมันปิโตรเลียม
- น้ำมันไฮดรอลิกทั่วไป (HYDRAULIC AW)
- น้ำมันเทอร์ไบน์
- น้ำมันไฮดรอลิกชนิดพิเศษ (HYDRAULIC HVI)
- น้ำมันเครื่องเบอร์ SAE 10W หรือ SAE 30
2. น้ำมันทนไฟ แบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภทคือ
- ประเภทที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ (Synthetic fluids) ซึ่งอยู่ 2 ประเภท คือ ฟอสเฟตเอสเตอร์ (Phosphate esters) และโพลีเออร์เอสเตอร์ (Polyor esters) ซึ่งเป็นคุณสมบัติของน้ำมันชนิดนี้สามารถใช้ได้ดีในอุณหภูมิสูงๆ โดยไม่ทำให้สารประกอบหายไป และใช้ใด้ดีในระบบที่มีความดันสูงๆ น้ำมันมีค่าความถ่วงจำเพาะที่สูงสุด จึงต้องระวังท่อดูดของปั๊มให้อยู่ในสภาพดี น้ำมันชนิดนี้มีค่าดัชนีความหนืดต่ำอยู่ที่ประมาณ 80 VI จึงควรใช้ในระบบที่มีอุณหภูมิในการทำงานที่คงที่
- ประเภทน้ำมันผสมน้ำ (Water containing fluids) น้ำมันประเภทนี้แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
- น้ำมันประเภทน้ำผสมกลีซอล น้ำมันประเภทนี้ประกอบด้วยน้ำอยู่ประมาณ 35-40 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นสารต่อต้านการติดไฟ กลีซอลและสารประกอบจากน้ำที่เป็นยางเหนียวเพื่อทำให้เกิดความหนืด นอกจากนี้ยังมีสารประกอบอื่นที่ช่วยป้องกันการเกิดฟอง การเกิดสนิม การผุกร่อน และช่วยในการหล่อลื่น
- น้ำมันประเภทมีน้ำผสมอยู่น้อยกว่าน้ำมัน โดยทั่วไปมีน้ำผสมอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อใช้ในระบบอาจเติมน้ำอีกได้เพื่อช่วยรักษาค่าความหนืดให้คงที่ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบอื่นที่ช่วยป้องกันการเกิดฟอง การเกิดสนิม การผุกร่อน
- น้ำมันประเภทมีน้ำมันผสมอยู่น้อยกว่าน้ำ น้ำมันชนิดนี้ต้านทานการลุกไหม้ได้ดี มีความหนืดต่ำ และมีสมบัติในการหล่อเย็นดีมาก นอกจากนี้ยังมีสารประกอบอื่นที่ช่วยป้องกันการเกิดฟอง การเกิดสนิม การผุกร่อน และช่วยในการหล่อลื่น
ประเภทน้ำมันไฮดรอลิคแบ่งได้เป็น 3 ประเภท
น้ำมันไฮดรอลิคแบบทั่วไป(Mineral oil Hydraulic Fluid)
- น้ำมันไฮดรอลิคกันไฟ (Fire resistance Hydraulic Fliud)
- น้ำมันไฮดรอลิคสังเคราะห์(Synthetic Hydraulic Fluid)
- น้ำมันไฮดรอลิคส่วนใหญ่ที่นิยมใช้เป็นน้ำมันไฮดรอลิคแบบ Mineral Oil มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย น้ำมันมีราคาถูก แต่มีข้อจำกัดในการใช้งานเสี่ยงต่อการติดไฟ ส่วนการใช้งานที่มีการเสี่ยงต่อการติดไฟสามารถเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคกันไฟได้ แต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเลือกประเภทไฮดรอลิคกันไฟ ซึ่งพบว่าน้ำมันไฮดรอลิคกันไฟมี 3 ประเภท คือ แบบแรก Water Base แบบที่ 2 Water Glycol แบบที่ 3 น้ำมันสังเคราะห์
- น้ำมันไฮดรอลิคกันไฟ เป็นน้ำมันที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีความรู้ในการใช้งานและดูแลรักษา เพราะประสิทธิภาพการกันไฟจะเป็นผลจากสภาพการดูแล เช่น หากใช้งานน้ำมันโดยไม่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันอาจมีสภาพความเป็นกรด กัดกร่อน อุปกรณ์ไฮดรอลิคเกิดความเสียหายได้
- อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ประเภทของน้ำมันนั้น ผู้ใช้งานควรเลือกจากคู่มือการใช้ของเครื่องจักรที่แนะนำน้ำมันไฮดรอลิคมีค่าความหนืดหลายเบอร์ให้เลือก ตั้งแต่ ISO VG 32 46 68100 และ ISO VG 150
- อายุการใช้งานของน้ำมัน น้ำมันควรมีสีเหมือนน้ำมันใหม่ สีใส ไม่มีสีขุ่น ไม่มีกลิ่นเหม็นไหม้ หากระหว่างใช้งานน้ำมันมีสีขุ่น หรือสีคล้ำและมีกลิ่นเหม็นไหม้ ควรพิจารณาเปลี่ยนทันที เพื่อป้องกันการเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น น้ำมันไฮดรอลิค โดยทั่วไป ควรพิจารณาเปลี่ยนทุกปี เพื่อป้องกันคราบยางเหนียวที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากใช้งานนานโดยไม่มีการเปลี่ยนถ่าย